พระราชวังแวร์ซายส์ มรดกโลกตะวันตก
พระราชวังแวร์ซายส์ มรดกโลกตะวันตก
พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles) หรือที่เรียกว่า “Château de Versailles” ในภาษาฝรั่งเศส สถานที่อันหรูหราแห่งนี้เป็นพระราชวังหลวงตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์ ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ที่สำคัญคือพระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี 1979 จากองค์การยูเนสโก พระราชวังแวร์ซายส์เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน โดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มีพระประสงค์ให้สร้างพระราชวังขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ โดยใช้เงินในการสร้างทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ และคนงานกว่า 30,000 คน
พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นพระราชวังที่ประทับที่สมบูรณ์แบบ โดยพระราชวังใหญ่โตสวยงามแห่งนี้สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ภายในแบ่งออกเป็นห้อง เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ เป็นต้น ซึ่งแต่ละห้องล้วนมีเครื่องประดับหรูหราตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียงประดับอยู่ตามผนังห้อง ซึ่งทั่วโลกยกย่องว่าพระรางวังแวร์ซายส์ เป็นที่รวบรวมเอกลักษณ์แห่งศิลปกรรมของฝรั่งเศสที่เคยกระฉ่อนโลกทั้งมวล จนมีคำกล่าวว่า ” คราใดใครได้เยือนแวร์ซายส์ ครานั้นเขาได้เห็นโลกอันศิวิไลซ์ที่แท้จริงแล้ว ” พระราชวังแวร์ซายส์จัดห้องเป็นสัดส่วนอย่างสมพระเกียรติที่สุดและแต่ละห้องได้สร้างอย่างวิจิตรบรรจงให้ความสอดคล้องกับเหตุการณ์และนามของห้องอย่างยิ่ง
ห้องวีนัส เป็นห้องพักราชทูตที่เดินทางมาถวายพระราชสาส์นตราตั้งก่อนเข้าเฝ้า กำแพงห้องด้อนหนึ่งเจาะลึก มีรูปปั้นชุนทรงศึกอันภูมิฐาน แบบโรมันของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ตามประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่าโกษาปานราชทูตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ครั้งเดินทางไปถวายสาส์นแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ก็ได้เข้าพักในห้องวีนัสนี้ เพดานห้องวีนัสวิจิตรด้วยภาพเทพธิดาแห่งความงามและความรักล้ำเลิศเป็นที่น่าประทับใจ
ห้องไดอาน่า ห้องนี้ใช้เป็นห้องพักผ่อนในพิธีบิลเลียด ที่ผนังทั้งสองด้านดารดาษด้วยรูปเทพธิดาไดอาน่าประทับรถม้าหลวงออกล่าสัตว์ กล่าวกันว่านามเทพธิดาไดอาน่าเป็นนามเทพีแห่งการล่าสัตว์
ห้องกระจก (The Hall of Mirrors) เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของแวร์ซายส์ในรอบ 4 ศตวรรษ ออกแบบโดยสถาปนิกเอก มอนสาร์ท ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงกำกับการก่อสร้างเอง ทั้งห้องประกอบด้วยกระจกบานยักษ์ 17 บาน เมื่อเปิดออกแล้ว สวนแวร์ซายส์อันสวยสดงดงามดุจสวนสวรรค์จะปรากฏบนกระจกทั้งแถบของกำแพงด้านใน เป็นที่ตระการตาแก่ผู้ได้พบเห็น โดยห้องกระจกนี้ได้ใช้ต้อนรับแขกเมือง หรือจัดพิธีเลี้ยงรับรองคณะราชทูต เป็นเวลาถึง 300 ปี หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ห้องนี้ได้ใช้เซ็นสนธิสัญญาครั้งสำคัญถึง 2 ครั้ง คือ สนธิสัญญาตั้งอาณาจักรเยอรมัน และสนธิสัญญาแวร์ซายส์ “สงบศึกสงครามโลกครั้งที่ 1”
ห้องชุดส่วนตัวของพระราชินี อยู่อีกด้านหนึ่งของวัง ถูกแยกออกไปคนละส่วนกับพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์มีห้องต่างหากไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ที่พิเศษอีกอย่างหนึ่ง ห้องชุดพระเจ้าหลุยส์ได้ถูกสร้างไว้พิเศษมีประตูและบันไดลับที่ไม่มีใครล่วงรู้
อุทยานแวร์ซายส์ เป็นสวนยิ่งใหญ่งดงามที่สุด ที่รายล้อมพระราชวังแวร์ซายส์ สถาปนิกแต่งสวนระดับโลกชื่อ เลอโนทด์ ร่วมกับช่างใหญ่ผู้ออกแบบสร้างวังทั้งสองท่านคือ เลอบรังและมอนสาร์ท เริ่มตกแต่งอย่างสมบูรณ์แบบในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่15 อุทยานแวร์ซายส์มีเนื้อที่กว้าง 14,820 เอเคอร์ ประกอบด้วยสระน้ำเล็กๆขึ้นไป จนถึงทะเลสาบจำลองขนาดใหญ่ พระเจ้าหลุยส์รับสั่งให้สร้างรูปปั้น รูปหล่อทองแดงของธรรมชาติทุกสิ่งไว้ ตั้งแต่รูปสัตว์จนถึงรูปปั้นเทพเจ้าทั้งหลายตามตำนานกรีกโบราณ เพื่อประกาศความเกรียงไกรของวัฒนธรรมฝรั่งเศส เทคนิคการชลประทานแบบใหม่ในครั้งนั้นได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยขุดคลองต่อจากแม่น้ำเชนน์มาที่แวร์ซายส์ เพื่อใช้เครื่องปั้มน้ำพุ่งขึ้นมาเป็นน้ำพุทั่วอุทยาน บรรดาพฤกษชาติได้นำมาปลูกทดลองในอุทยาน โดยแยกพันธุ์ให้เข้าฤดูกาลที่แปรผันไป
ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ยังคงความสวยงามเลิศล้ำ เป็นสถานที่รับแขกเมืองที่ประชุมสำคัญ โดยเฉพาะจัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกในยุคปัจจุบันที่ชาวโลกทั้งมวลต่างกล่าวขวัญถึงว่า “เลิศล้ำยิ่งใหญ่ที่สุด สมกับเป็นวิมานบนดินของจักรพรรดิจริงๆ”
รับชมโปรแกรมทัวร์ยุโรป คลิกที่นี่
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-661-9399 หรือ Line: @Eliteholiday